Elsa - Disney's Frozen พุยพุย

เม้า

พุยพุย
พุยพุย

วันอังคารที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2559

กิจกรรมที่3 ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์

ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
http://image.slidesharecdn.com/random-141223030504-conversion-gate01/95/-2-638.jpg?cb=1419325554

1. คัดเลือกหัวข้อโครงงานที่สนใจ
2. ศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูล
3. จัดทำเค้าโครงของโครงงาน 
4. การลงมือทำโครงงาน
5. การเขียนรายงาน

6. การนำเสนอและแสดงโครงงาน
http://www.tsupaman.com/wp-content/uploads/2015/06/What-sale-01.jpg

1. คัดเลือกหัวข้อโครงงานที่สนใจ            
          ปัญหาสำคัญในการทำโครงงานคอมพิวเตอร์ประการหนึ่งคือ ผู้เรียนไม่ทราบว่าจะทำโครงงานเรื่องอะไร โดยทั่วไปเรื่องที่จะนำมาพัฒนาเป็นโครงงานคอมพิวเตอร์ มักจะได้มาจากเรื่องทั่วๆ ไป จากปัญหา คำถาม หรือความสนใจในเรื่องต่างๆ จากการสังเกตสิ่งต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับระบบคอมพิวเตอร์ หรือสิ่งต่างๆ รอบตัว

             อย่างไรก็ตาม ในการตัดสินใจเลือกหัวข้อที่จะนำมาพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์ ควรพิจารณาองค์ประกอบสำคัญๆ ดังนี้
             - เห็นประโยชน์และความคุ้มค่าของเรื่องที่จะทำโครงงาน
             - ต้องมีความรู้และทักษะพื้นฐานอย่างเพียงพอในหัวข้อเรื่องที่จะศึกษา
             - สามารถจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้องได้
             - มีแหล่งความรู้เพียงพอที่จะค้นคว้าหรือขอคำปรึกษาซึ่งรวมถึงผู้เชี่ยวชาญ หรือผู้ให้คำปรึกษา
             - มีเวลาเพียงพอ
             - มีงบประมาณเพียงพอ
             - มีความปลอดภัย
http://technology555.weebly.com/uploads/2/2/2/4/22243080/7121154.gif?391

2. ศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูล
ค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูล ซึ่งรวมถึงการขอคำปรึกษาจากครูผู้เชี่ยวชาญ ปราชญ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น จะช่วยให้ผู้เรียนได้แนวคิดที่ใช้ในการกำหนดขอบเขตของเรื่องที่จะศึกษาได้เฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น รวมทั้งได้ความรู้เพิ่มเติมในเรื่องที่จะศึกษาจนสามารถใช้ออกแบบและวางแผนดำเนินการทำโครงงานนั้นได้อย่างเหมาะสม ในการศึกษาค้นคว้าดังกล่าว ผู้เรียนจะต้องบันทึกสรุปสาระสำคัญไว้ด้วย แหล่งข้อมูลที่สำคัญอีกแหล่งหนึ่งคือ การศึกษาผลงานของโครงงานคอมพิวเตอร์จากงานแสดงนิทรรศการ หรือจากเอกสารรายงานโครงงานคอมพิวเตอร์ ซึ่งอาจค้นหาได้จากเว็บไซต์ต่างๆ ทั่วโลก จะช่วยเพิ่มพูนประสบการณ์ให้กับผู้เรียนในด้านความรู้ เทคนิคและวิธีการพัฒนา นอกจากนี้ยังทำให้เกิดแนวคิดที่จะดัดแปลงผลงานดังกล่าว มาจัดทำโครงงานคอมพิวเตอร์ในหัวข้อที่ตนสนใจด้วย

https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgcs0toOP4u1M9IMfoC94llOr5Lz0eNz44913S9BvjsKjOE5yCLNdBbx3zKjcRc-v5AKfHizP1F-kssR9ZxPWtZE9tzo7VMURdkVI3K3JDT_59EDpYCiYe3SAvTCLC3OL9vnPBHHgcmusoe/s1600/9.jpg

3. จัดทำเค้าโครงของโครงงาน 
             โดยทั่วไป การทำข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์มีขั้นตอนที่สำคัญดังนี้
             3.1 กำหนดขอบเขตงาน
                  วิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากการทบทวนเอกสารวิชาการ เพื่อนำมากำหนดขอบเขต ลักษณะ และแนวทางในการวางแผนจัดทำโครงงาน
             3.2 การออกแบบการพัฒนา
                  การออกแบบพัฒนา มีการกำหนดลักษณะของคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ ตัวแปล ภาษา และวัสดุต่างๆ ที่ต้องใช้กำหนด คุณลักษณะของผลงาน ระบุเทคนิคที่ใช้ในการพัฒนา พร้อมทั้งกำหนดตารางการปฏิบัติงาน
             3.3 พัฒนาโครงงานขั้นต้น
                  การพัฒนาโครงงานขั้นต้น เป็นการลงมือปฏิบัติเพื่อศึกษาความเป็นไปได้เบื้องต้น โดยอาจทำการพัฒนาส่วนย่อยๆ บางส่วนตามที่ได้ออกแบบไว้โดยนำผลจากการปฏิบัติ ไปปรับปรุงแผนการปฏิบัติงานที่ออกแบบไว้ในครั้งแรกให้เหมาะสมยิ่งขึ้น ขั้นตอนนี้เป็นทางเลือกสำหรับผู้เสนอโครงงานที่ต้องการตรวจสอบความเป็นไปได้ของโครงงานและหลักการ
             3.4 จัดทำและเสนอข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
                  เขียนข้อเสนอโครงงานนำเสนอต่ออาจารย์ที่ปรึกษา เพื่ออาจารย์ที่ปรึกษาจะได้แนะนำในส่วนที่ยังบกพร่องอยู่อีกครั้ง ซึ่งจะทำให้การวางแผนและดำเนินการทำโครงงานเป็นไปอย่างราบรื่น

http://static.guim.co.uk/sys-images/Travel/Pix/pictures/2011/8/19/1313746385236/Work-in-an-office-abroad-007.jpg

4. การลงมือทำโครงงาน
             4.1 การเตรียมการ
                  ต้องเตรียมเครื่องคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ และวัสดุอื่นๆ ที่จะใช้ในการทดลอง พร้อมทั้งจัดเตรียมสถานที่สำหรับใช้ในการพัฒนาให้พร้อมด้วย และควรเตรียมสมุดบันทึก หรือบันทึกเป็นแฟ้มข้อความไว้ในระบบคอมพิวเตอร์ สำหรับบันทึกการทำกิจกรรมต่างๆ ระหว่างทำโครงงาน ได้แก่ ได้ปฏิบัติอย่างไร ได้ผลอย่างไร มีปัญหาและแก้ไขได้หรือไม่ อย่างไร รวมทั้งข้อสังเกตต่างๆ ที่พบ
             4.2 การลงมือพัฒนา
                  4.2.1 ปฏิบัติตามแผนงานที่วางไว้ในเค้าโครง แต่อาจเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมได้ถ้าพบว่าจะช่วยทำให้ผลงานดีขึ้น
                  4.2.2 จัดระบบการทำงานโดยทำส่วนที่เป็นหลักสำคัญให้แล้วเสร็จก่อน จึงค่อยทำส่วนที่เป็นส่วนประกอบหรือส่วนเสริมเพื่อให้โครงงานมีความสมบูรณ์มากขึ้น และถ้ามีการแบ่งงานกันทำ ให้ทำความตกลงในการต่อเชื่อมชิ้นงานที่ชัดเจนด้วย
                  4.2.3 พัฒนาระบบงานด้วยความละเอียดรอบคอบ และบันทึกข้อมูลไว้อย่างเป็นระบบและครบถ้วน
                  4.2.4 คำนึงถึงความประหยัด ความปลอดภัย และระยะเวลาในการทำงาน
             4.3 การตรวจสอบผลงานและแก้ไข
                  การตรวจสอบความถูกต้องของผลงานเป็นความจำเป็น เพื่อให้แน่ใจว่าผลงานที่พัฒนาขึ้นทำงานได้ถูกต้องตรงกับความต้องการที่ระบุไว้ในเป้าหมาย และทำด้วยประสิทธิภาพสูงด้วย
             4.4 การอภิปรายผลและข้อเสนอแนะ
                  เมื่อพัฒนาผลงานเรียบร้อยแล้ว ให้จัดทำสรุปด้วยข้อความที่สั้นกะทัดรัดอย่างครอบคลุม เพื่อช่วยให้ผู้อ่านได้เข้าใจถึงสิ่งที่ค้นพบจากการทำโครงงาน และทำการอภิปรายผลด้วย เพื่อพิจารณาข้อมูลและผลที่ได้พร้อมกับนำไปหาความสัมพันธ์กับหลักการ ทฤษฎี หรือผลงานที่ผู้อื่นได้ศึกษาไว้แล้ว ทั้งนี้ยังรวมถึงการนำหลักการ ทฤษฎี หรือผลงานของผู้อื่นมาใช้ประกอบ
การอภิปรายผลที่ได้ด้วย
           4.5 แนวทางการพัฒนาโครงงานในอนาคตและข้อเสนอแนะ
                  เมื่อทำโครงงานเสร็จสิ้นลงแล้ว ผู้เรียนอาจพบข้อสังเกต ประเด็นที่สำคัญหรือปัญหา ซึ่งสามารถเขียนเป็นข้อเสนอแนะและสิ่งที่ควรจะศึกษาหรือใช้ประโยชน์ต่อไปได้

5. การเขียนรายงาน
 เมื่อทำโครงงานจนได้ข้อมูลอย่างเพียงพอและทำการวิเคราะห์ผล และสรุปผลแล้ว ขั้นตอนต่อไปที่ต้องทำคือการจัดทำรายงาน ซึ่งจะรวมถึงรายละเอียดต่างๆ ในการพัฒนา และคู่มือการใช้งานรายงานโครงงานคอมพิวเตอร์เป็นวิธีสื่อความหมายที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้ผู้อื่นได้เข้าใจแนวคิด วิธีดำเนินการศึกษาค้นคว้า ข้อมูลที่ได้ ตลอดจนข้อสรุปและข้อเสนอแนะต่างๆ
เกี่ยวกับโครงงาน ในการเขียนรายงานนั้น ผู้เรียนควรใช้ภาษาที่อ่านและเข้าใจได้ง่าย ชัดเจน กระชับ และตรงไปตรงมา ให้ครอบคลุมหัวข้อต่างๆ ดังต่อไปนี้
http://images.slideplayer.in.th/9/2212751/slides/slide_3.jpg


6. การนำเสนอและการแสดงผลงานของโครงงาน
               การนำเสนอและการแสดงผลงานเป็นขั้นตอนที่สำคัญอีกขั้นตอนหนึ่งของการทำโครงงาน เพื่อแสดงออกถึงผลิตผลของความคิด ความพยายามในการทำงานที่ผู้ทำโครงงานได้ทุ่มเท และเป็นวิธีที่ทำให้ผู้อื่นได้รับรู้และเข้าใจถึงผลงานนั้น การเสนอผลงานอาจทำได้ในหลายรูปแบบต่างๆ กัน เช่น การแสดงผลงานโดยไม่มีการอธิบายประกอบ การรายงานด้วยคำพูดในที่ประชุม การจัดนิทรรศการโดยโปสเตอร์ และอธิบายด้วยคำพูด โดยผลงานที่นำมาเสนอหรือจัดแสดงควรประกอบด้วยสิ่งต่อไปนี้
               1) ชื่อโครงงาน
               2) ชื่อผู้จัดทำโครงงาน
               3) ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษา
               4) คำอธิบายถึงที่มาและความสำคัญของโครงงาน
               5) วิธีการดำเนินการที่สำคัญ
               6) การสาธิตผลงาน
               7) ผลการสังเกตและข้อสรุปสำคัญที่ได้จากการทำโครงงาน
http://www.careerjunction.co.za/blog/wp-content/uploads/2013/11/ID-10041289.jpg


วีดีโอประกอบความเข้าใจ
1.ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับโครงงานคอมพิวเตอร์
https://www.youtube.com/watch?v=8Gufl3ZmWiY

2.ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
https://www.youtube.com/watch?v=SDnWOGjBAIg

วันศุกร์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2559

ใบงานที่ 5 บทความสารคดีที่นำมาใช้สำหรับการเขียนโครงร่าง

อ่านหนังสือไปด้วย ฟังเพลงไปด้วยดีไหม? 
ที่มา : http://www.tutorplus-academy.com/wp-content/uploads/2016/04/Untitled-1.png


คำถามที่ว่า “การฟังเพลงไปด้วย แล้วอ่านหนังสือไปด้วย มันดีหรือไม่ดีกันแน่” ก็ยังเป็นคำถามที่รบกวนจิตใจ และเป็นคำถามที่มีคนสงสัยตลอดเวลา ไม่ใช่แค่ในไทยนะ"  อยากรู้กันทั่วโลกเลยก็ว่าได้


ได้มีการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว และได้มีการนำเสนอผ่านหนังสือ  Find Your Focus Zone: An Effective New Plan to Defeat Distraction and Overload by Lucy Jo Palladino



ที่มา : https://images-na.ssl-images-amazon.com/images/I/51mGXpH0baL._SX331_BO1,204,203,200_.jpg


สามารถสรุปใจความได้ว่า
'การฟังเพลงระหว่างอ่านหนังสือ การเรียนรู้เรื่องใดเรื่องหนึ่ง และระหว่างทำงานหรือกิจกรรมอย่างใดอย่างหนึ่ง ให้ผลแตกต่างกันออกไป'


1. ขึ้นอยู่กับตัวบุคคลแต่ละคน
ที่มา : http://www.2wired2tired.com/wp-content/uploads/2010/10/I-Am-Me-Cover.jpg

บางคนชอบอ่านเงียบ ๆ ไม่อยากได้ยินหรือฟังเสียงรบกวนอะไรทั้งนั้น ถึงจะมีสมาธิจดจ่อได้ดีที่สุด หรือบางคนอาจจะชอบแบบให้มีเสียงหึ่ง ๆ ของสภาพแวดล้อมนิดหน่อยพอกรุบกริบ เช่น เสียงคนคุยกันเบา ๆ เสียงนก เสียงรถ เสียงทีวี วิทยุ หรืออะไรก็ได้ แบบเบา ๆ เพื่อไม่ให้เงียบจนเกินกว่าเหตุ เพราะฉะนั้น การฟังเพลงเป็นเรื่องเป็นราว จึงส่งผลด้านลบต่อคนกลุ่มนี้



2. ขึ้นกับกิจกรรมที่ทำหรือวิชาที่อ่าน (หรือเรียน)
ที่มา : https://d6spsjd93jy0k.cloudfront.net/wp-content/gallery/improve-bad-study-habits/4-necessary-topics.jpg


โดยเฉพาะวิชาที่เกี่ยวข้องกับความจำ มีการเรียงลำดับเหตุการณ์ หรือต้องวิเคราะห์และทำความเข้าใจ วิชาพวกนี้ ไม่ควรเปิดเพลงฟังในขณะที่อ่าน ส่วนวิชาที่เกี่ยวข้องกับภาษาหรือการใช้ภาษา การฟังเพลงที่มีเนื้อเพลง จะส่งผลลบมากกว่าเพลงบรรเลง สำหรับวิชาที่เกี่ยวข้องกับการคำนวณ หรือคณิตศาสตร์ ดูเหมือนการฟังเพลงจะไม่รบกวนการเรียนรู้เท่ากับวิชาประเภทอื่น ๆ





3. ลักษณะของเพลงที่ฟัง และระดับเสียง (ความดัง/เบา) ที่เปิด

ที่มา : http://www.thestudentguide.com/images/uploads/musicbanner.jpg

ถึงแม้ว่าผู้เชี่ยวชาญจะคอนเฟิร์มว่า ไม่ควรฟังเพลงขณะอ่านหนังสือก็ตาม แต่ถามจริง ๆ สำหรับคนที่อยู่ในปี 2016 ซึ่งเป็นยุคที่มือถือแทบจะเป็นอวัยวะหนึ่งของร่างกายเลยก็ว่าได้ และคงต้องบอกว่า ในมือถือทุกเครื่อง ย่อมต้องมีเพลงหรือช่องทางที่จะพาเราไปสู่เพลงได้ง่ายเพียงแค่จิ้มไม่กี่จึ้ก จนเป็นเหตุให้การฟังเพลงแทบจะตลอดเวลาเป็นเรื่องธรรมดาไปซะแล้ว แม้กระทั่งตอนอ่านหนังสือก็ตาม แล้วมันจะเป็นไปได้เหรอ ถ้าคุณติดการฟังเพลง ต้องฟังเพลง เพื่อที่จะมีชีวิตรอดอยู่ได้ แล้วอยู่ ๆ โดนห้ามไม่ให้ฟังเพลงตอนอ่านหนังสือซะงั้น


นอกจากนี้ ยังมีบทความภาษาอังกฤษที่ได้อธิบายการทำงานของสมอง และรูปแบบของเพลงที่ช่วยกระตุ้นสมองในเวลาต่างกันด้วย




ที่มา : http://learningfundamentals.com.au/blog/should-you-listen-to-music-when-you-study/


และจากการวิจัยทางสมองและจิตวิทยาว่า สมาธิ (attention) นั้นจะเป็นกราฟโค้งรูปตัวยู โดยสมาธิที่ดี คือ จะอยู่ในช่วงสมอง
ที่มา :  http://www.yourfocuszone.com/bks_fyfz_ch1.html

ไม่ตื่นตัวและไม่เฉื่อยมากเกินไป คือ อยู่ในช่วง focus zone นั่นเอง 

การสร้างสมาธิในการอ่านหนังสือก็ขึ้นอยู่กับนิสัยและลักษณะส่วนตัวของแต่ละคนด้วย บางคนต้องใช้สิ่งกระตุ้นสมองมากหน่อยถึงจะอ่านหนังสือได้ดี บางคนสมองตื่นตัวอยู่ด้วย ต้องการความเงียบ และแม้แต่ในคนคนเดียวกัน แต่ต่างเวลา หรือต่างกิจกรรม (เช่น อ่านหนังสือต่างวิชา) สมองเราก็อาจจะทำงานแตกต่างไปได้ เราต้องคอยสังเกตตัวเอง และปรับสมองให้เหมาะสมกับการอ่านหนังสือ ณ ช่วงเวลานั้นๆค่ะ


>>เสริมความรู้เล็กๆ น้อยๆ

ที่มา : https://www.youtube.com/watch?v=gOxLDl2nVFc

วันเสาร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2559

ใบงาน 4 คลังข้อสอบ

  

  • ข้อสอบ 7 วิชาสามัญ
ข้อสอบ 7 วิชาสามัญ ปี 2555 (สอบ ม.ค. 2555)
           - คณิตศาสตร์ คลิกที่นี่ + เฉลย คลิกที่นี่
           - ฟิสิกส์ + เฉลย คลิกที่นี่
           - เคมี + เฉลย คลิกที่นี่
           - ชีววิทยา คลิกที่นี่
           - ภาษาไทย คลิกที่นี่
           - สังคมศึกษา คลิกที่นี่
           - ภาษาอังกฤษ คลิกที่นี่ + เฉลย คลิกที่นี่
ข้อสอบ 7 วิชาสามัญ ปี 2556 (สอบ ม.ค. 2556)
           - คณิตศาสตร์ คลิกที่นี่ + เฉลย ตอนที่ 1 คลิกที่นี่ ตอนที่ 2 คลิกที่นี่
           - ฟิสิกส์ + เฉลย คลิกที่นี่
           - เคมี คลิกที่นี่
           - ชีววิทยา คลิกที่นี่
           - ภาษาไทย คลิกที่นี่
           - สังคมศึกษา คลิกที่นี่
           - ภาษาอังกฤษ + เฉลย คลิกที่นี่



ข้อสอบ 7 วิชาสามัญ ปี 2557 (สอบ ม.ค. 2557)
           คณิตศาสตร์ คลิกที่นี่ + เฉลย คลิกที่นี่
           ฟิสิกส์ คลิกที่นี่
           เคมี คลิกที่นี่  + เฉลย คลิกที่นี่
           ชีววิทยา คลิกที่นี่
           ภาษาไทย คลิกที่นี่ 
           สังคมศึกษา คลิกที่นี่
           ภาษาอังกฤษ คลิกที่นี่



ข้อสอบ 7 วิชาสามัญ ปี 2558 (สอบ ม.ค. 2558)
           คณิตศาสตร์ คลิกที่นี่ 
           ฟิสิกส์ คลิกที่นี่ 
           เคมี คลิกที่นี่   
           ชีววิทยา คลิกที่นี่ 
           ภาษาไทย คลิกที่นี่ 
           สังคมศึกษา คลิกที่นี่ 
           ภาษาอังกฤษ คลิกที่นี่ 








  • ข้อสอบ Gat /Pat

ที่มา : http://www.chulabook.com/images/news/gat-pat2557.jpg


ข้อสอบพร้อมเฉลย GAT/PAT ครั้งที่ 1 ปีการศึกษา 2552
ที่มา : http://forum.02dual.com/index.php?topic=1471.0
 
 
 
  • แนวข้อสอบ กพ.
ที่มา : http://www.trueplookpanya.com/learning/detail/30871-043448


 
  
  • แนวข้อสอบโควต้า มช.
ที่มา : https://pakornkrits.files.wordpress.com/2010/09/444.png



web link>> https://skydrive.live.com/redir?resid=A844FB972A3E392C!670


  • หนังสือดีแนะนำ 
 วิชาชีวะ
ที่มา : http://image.dek-d.com/26/3036388/112752233

ที่มา : http://f.ptcdn.info/454/032/000/1434349764-biobook1-o.jpg



 วิชาเคมี
ที่มา : http://image.dek-d.com/26/3036388/112752409 

ที่มา : http://image.dek-d.com/26/3036388/112752409


วิชาฟิสิกส์
ที่มา : http://image.dek-d.com/26/3036388/112752456

ที่มา : http://www.chulabook.com/images/book-400/9789743948657.gif
วิชาคณิตศาสตร์
ที่มา : http://image.dek-d.com/26/3036388/112752485
ที่มา : http://image.dek-d.com/26/3036388/112752490
  • คลิปติวก่อนสอบ
ติววิชาคณิตศาสตร์


ที่มา : https://www.youtube.com/watch?v=jveCUNSUwa4

ติววิชาฟิสิกส์
ที่มา : https://www.youtube.com/watch?v=deLA5g1SqF4
ติววิชาเคมี 
ที่มา : https://www.youtube.com/watch?v=vuMM8qBt1AQ
ติววิชาชีวะ
ที่มา : https://www.youtube.com/watch?v=S5dda-kVv6g
ติววิชาอังกฤษ 
 ที่มา : https://www.youtube.com/watch?v=kyGgLBxUMrA